เหล็กโครงสร้างกำลังสูง เกรด SM520 จาก SYS คือเหล็กโครงสร้างที่มีกำลังสูงขึ้น รับแรงได้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่ใช้สอย น้ำหนักเหล็กลดลง ประหยัดและลดเวลาก่อสร้าง ประหยัดค่าแรงและค่าขนส่ง ซึ่งโดยรวมแล้วจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนก่อสร้างได้ถึง 20%
มาทำความรู้จักเหล็กโครงสร้างกำลังสูง เกรด SM520 กันเถอะ
ปัจจุบันวงการอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทย มีแนวโน้มการเลือกใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการก่อสร้างอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เหล็กเอชบีม SM520 เหล็กโครงสร้างที่มีกำลังสูงขึ้น ในรูปแบบของ เหล็กกล้ากำลังสูง (High Strength Steel) มีคุณสมบัติการรับแรงดึงที่สูงขึ้น(High Yield Strength) สามารถลดปริมาณการใช้เหล็กลงได้ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างลงจึงได้ถือกำเนิดขึ้นและกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้
เหล็กเกรด SM520 เหล็กโครงสร้างที่มีกำลังสูงขึ้น คือเหล็กกล้าคุณภาพสูงที่วงการอุตสาหกรรมก่อสร้างค้นคว้าวิจัยและพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องจนได้เหล็กคุณภาพสูงในขั้นตอนการผลิตเหล็ก SM520 นั้นต้องควบคุมส่วนผสมทางเคมีอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้เหล็กโครงสร้างที่มีกำลังรับแรงดึงที่สูงขึ้น (High Yield Strength) มีความสามารถในการเชื่อมได้ดี (Good Weld ability) ทั้งยังคงคุณสมบัติความเหนียวในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำ (Toughness at low temperature) ได้อีกด้วย
เหล็ก SM520 ที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือ TIS ต้องมีคุณสมบัติเหล็กดังต่อไปนี้
- ส่วนประกอบทางเคมีของเหล็ก SM520 (คิดเป็นร้อยละโดยน้ำหนัก)
- คาร์บอนสูงสุด 0.20%
- ซิลิคอนสูงสุด 0.55%
- แมงกานีสสูงสุด 1.60%
- ฟอสฟอรัสสูงสุด 0.035%
- กำมะถันสูงสุด 0.035%
- คุณสมบัติของเหล็ก SM520 ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
- เหล็กเอชบีม SM520 มาตรฐาน มอก.1227-2558
- เหล็กเอชบีม SM520 มีความต้านทานแรงดึงที่จุดครากอยู่ (Yield Point) ที่ 355-365 MPa
- เหล็กเอชบีม SM520 สามารถ ความต้านแรงดึง 520-640 MPa
- เหล็กเอชบีม SM520 สามารถ ความต้านการกระแทกต่ำสุด 27 จูล ที่ 0 ºC
การตรวจสอบคุณภาพเหล็ก SM520
เหล็กโครงสร้างกำลังสูง เกรด SM520 จาก SYS ต่างจากเหล็กเกรด SS400 ยังไง?
อุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศไทย ต้องเลือกผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนที่ได้มาตรฐาน มอก. บังคับ ตามมาตรฐาน มอก. 1227-2558 โดย SYS มีสินค้าพร้อมจำหน่าย 2 เกรด คือ เหล็กเกรด SS400 และ เหล็กเกรด SM520 โดยเหล็กเกรด SS400 นิยมนำมาก่อสร้างเป็นโครงสร้างเหล็กหลายประเภทได้ เช่น บ้าน อาคาร สำนักงาน ร้านค้า ฯลฯ ซึ่งผู้ใช้งานคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
แต่ในปัจจุบันมีเหล็กโครงสร้างกำลังสูง เกรด SM520 ซึ่งมีคุณสมบัติทางกลที่รับกำลังได้สูงกว่า โดยมีกำลังรับแรงที่จุดคราก ≈ 3,600 ksc. (kg/cm2) ในขณะที่เกรด SS400 มีกำลังอยู่ที่ 2,400 ksc ส่วนคุณสมบัติทางเคมีนั้น เหล็ก H-BEAM เกรด SM520 ถูกควบคุมปริมาณธาตุคาร์บอนที่เป็นธาตุประกอบในการผลิตเหล็กให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้เหล็กมีเนื้อเหนียว ทน ไม่เปราะหักง่าย
เหล็กโครงสร้างกำลังสูง เกรด SM520 จาก SYS เหมาะกับงานประเภทไหน?
ในการนำเหล็ก H-BEAM เกรด SM520 ไปใช้งาน นิยมนำมาเป็นเสาในโครงสร้างที่ต้องการคุณสมบัติในการรับแรงอัดสูง ๆ หรือในโครงการที่ต้องการความแข็งแรงมากขึ้น แต่ขนาดโครงสร้างเล็กลง หรืออาจใช้ในโครงถักด้วย เหล็ก H-BEAM เกรด SM520 ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เช่น โครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, Boccia Training Center, Saun Phlu 9 Office ฯลฯ
SYS SM520 เหล็กไทยที่พัฒนาไกลกว่า Standard
เมื่อพูดถึงโครงสร้างเหล็ก เรามักนึกถึง “ความแข็งแรง” เป็นอันดับแรก และแน่นอนว่าเหล็กเกรด SM520 นั้นเหนือกว่า SS400 ในด้านการรับกำลังเมื่อเทียบที่หน้าตัดเท่ากัน แต่ในวันที่โลกไม่เคยหยุดนิ่ง ความแข็งแรงเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอหรือไม่?
อาคารยุคใหม่ไม่ได้ต่อสู้กับเพียงแรงโน้มถ่วงในแนวดิ่งอีกต่อไป แต่ต้องพร้อมรับมือกับความท้าทายจากแรงด้านข้างที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นแรงลม การสั่นสะเทือน หรือแผ่นดินไหว นี่คือจุดที่ทำให้เราต้องมองเหล็กในมุมที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
เพราะภายใต้แรงกระทำเหล่านี้ คุณสมบัติที่สำคัญไม่แพ้ความแข็งแรง คือ “ความเหนียว” (Elongation) หรือความสามารถในการยืดหยุ่นและกระจายแรงโดยไม่พังทลายลงในทันที ดังนั้น การเลือกใช้เหล็กสำหรับโครงสร้างยุคใหม่ จึงไม่ใช่แค่การถามว่า “แข็งแรงแค่ไหน” แต่ต้องเพิ่มคำถามสำคัญที่ว่า “เหนียวพอหรือไม่” เข้าไปใน Check List ด้วยเสมอ
SYS ได้ปรับปรุงคุณสมบัติเหล็กเกรด SM520 ที่ไม่ใช่แค่ได้ค่าตามมาตรฐานกำหนด แต่เป็นเหล็กที่ Beyond the Standard มีค่าความยืดหยุ่นที่สูงกว่ามาตรฐาน ทำให้เนื้อเหล็กมีความเหนียวมากขึ้น รับแรงได้ดียิ่งขึ้น จึงเหมาะและรับแรงกระทำต่าง ๆ ได้มั่นคงปลอดภัยมากขึ้น โครงสร้างไม่พังถล่มลงมาทันที
โครงสร้างจากเหล็ก SYS SM520 จึงพร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ พร้อมสร้างความมั่นใจให้ทั้งวิศวกรและผู้ใช้อาคารว่าทุกโครงสร้างที่ก่อสร้างด้วย SM520 ของ SYS จะไม่เพียงแค่แข็งแรง แต่ยังเหนือกว่ามาตรฐานอย่างแท้จริง
เปลี่ยนสเปกจาก SS400 เป็น SM520 ไม่ยุ่งยาก แถมคุ้มค่ามากขึ้น
หากช่างต้องเปลี่ยนสเปกเหล็ก H-BEAM ในแบบ จะต้องปรับอะไรบ้าง?
คำตอบคือ ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย ไม่ยุ่งยาก แถมคุ้มค่ามากขึ้น! เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเหล็กทั้งหมดลงได้เพราะเหล็ก SM520 สามารถทำงานก่อสร้างได้เหมือนกับเหล็ก SS400 ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโครงสร้าง หรือกระบวนการก่อสร้าง และที่สำคัญ ยังสามารถใช้ลวดเชื่อมมาตรฐาน E7016 ซึ่งเป็นลวดเชื่อมที่นิยมใช้งานคู่กับเหล็ก SS400 ได้เหมือนเดิม
นอกจากนี้การเปลี่ยนสเปกจาก SS400 เป็น SM520 ยังทำได้ง่าย ไม่กระทบกับการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม เพราะมีหน้าตัดและรูปลักษณ์และความแข็งแรงของโครงสร้างจึงยังได้คุณภาพ อีกทั้งการเปลี่ยนมาใช้เหล็ก H-BEAM SM520 ยังให้ประโยชน์กับผู้ใช้งานมากขึ้นด้วย เพราะวิศวกรโครงสร้างสามารถออกแบบใช้ H-BEAM SM520 ให้มีขนาดเล็กกว่า การออกแบบใช้ H-BEAM SS400 ช่วยให้ขนาดโครงสร้างเสา – คานเล็กลงแต่ยังรับน้ำหนักได้ดี และช่วยให้ภาพรวมของงานประหยัดขึ้นได้ทั้งค่าเหล็ก ค่าตัดเชื่อมประกอบ และค่าขนส่งมาที่หน้างาน การเปลี่ยนมาใช้เหล็ก SM520 จึงเป็นวิธีเปลี่ยนมุมมองในการก่อสร้างง่าย ๆ 1 ครั้งที่ให้ความคุ้มค่าได้หลายต่อ
เหล็กเกรด SM520 เหมาะกับการติดตั้งแบบใดบ้าง?
เหล็กเกรด SM520 มีวิธีการใช้งานและการนำไปใช้ที่ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด อีกทั้งยังสะดวกและทำได้ง่ายเหมือนกับเหล็กเกรด SS400 โดยสามารถติดตั้งได้ทั้ง 2 รูปแบบ คือ แบบเชื่อมประกอบที่หน้างานและแบบขันประกอบ Bolted Connection
การติดตั้งด้วยวิธีการขันประกอบ Bolted Connection
มีการเตรียมการชิ้นส่วน ตำแหน่ง และขนาดรูน็อตต่าง ๆ ที่เตรียมชิ้นส่วนทุกอย่างมาเรียบร้อยจากโรงงานของ SYS แล้ว ในกรณีที่ติดตั้งเองสามารถยกติดตั้งได้ตามเอกสาร Guideline ของทาง SYS ได้เลย
การติดตั้งด้วยวิธีการเชื่อม (Welded Connection)
- ต้องควบคุมปัจจัยที่หน้างานให้ดี เพื่อรักษาคุณภาพของงานก่อสร้าง
- เลือกช่างเชื่อมที่มีทักษะดี รู้รายละเอียดงานเชื่อมดี
- ใช้เหล็กเพลทเกรด SM520 หรืออาจมีการใช้เหล็กเพลทเกรด SS400 โดยออกแบบให้มีความหนามากขึ้น เพื่อมาปะกับรอยต่อ
- ใช้ลวดเชื่อม High Strength Grade E70xx ขึ้นไป เพื่อให้รอยต่อของ SM520 รับแรงได้ตามมาตรฐานการออกแบบ
ในการเชื่อมหน้างานหากสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เช่น ลวดเชื่อม เหล็กเพลท ทักษะของช่างได้เป็นอย่างดีแล้ว การก่อสร้างด้วยเหล็ก SM520 ก็จะมีประสิทธิภาพเต็มร้อยได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเอียดการออกแบบโครงสร้างขึ้นอยู่กับวิศวกรด้วย
ทาง SYS มีทีมวิศวกรและบริการ Steel Solution by SYS ที่คอยให้บริการออกแบบตัวอย่างโครงสร้างเหล็ก ออกแบบรอยต่อที่เหมาะสมในรูปแบบ Bolt and Nut หากสนใจบริการหรือผลิตภัณฑ์จาก SYS สามารถติดตามข่าวสารและช่องทางติดต่อได้ที่
เคล็ดลับฉบับ SYS ใช้เหล็ก SYS SM520 + กับอะไรก็คุ้มค่า
ปัจจุบันงานโครงการออกแบบจำนวนมากหันมาเลือกใช้เหล็กเกรด SM520 กันมากขึ้น สามารถ Match กับบริการหรืออัปเกรดการใช้เหล็กให้มีคุณสมบัติสูงขึ้นได้ด้วย เพื่อเหมาะกับรูปแบบการใช้งานในการก่อสร้าง
ยกตัวอย่างเช่น การนำเหล็ก SYS SM520 ที่มีกำลังสูงมา Match กับบริการเหล็กความยาวพิเศษ (Customized Length) ที่ลูกค้าสามารถกำหนดความยาวได้เอง (ตั้งแต่ 6 เมตรขึ้นไป ทุกๆ 10 เซนติเมตร) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือลดต้นทุนการทำจุดต่อเชื่อมของเสา-คานเหล็ก และประหยัดเศษเหล็กที่เหลือทิ้งเพราะตัดเหล็กมาพอดี
สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในงานโครงสร้าง สามารถเลือกใช้เหล็ก SYS SM520 มาตัดและออกแบบเป็นโครงสร้าง Cellular Beam (เซลลูลาร์ บีม) คานแปรรูปแบบมีช่องเปิด ซึ่งช่วยให้สามารถทำช่วงพาดได้กว้างขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยได้มากกว่าการใช้เหล็ก H-BEAM ทั่วไปถึง 15%
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเหล็ก SYS SM520 มาทำสีกันสนิม SYS PRIMERBOND เหล็กพร้อมทำสีรองพื้นกันสนิมได้อีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันสนิม เหล็กไม่เสียคุณภาพหรือเกิดสนิมขณะถูกกองเก็บหรือเตรียมการเอาไว้ที่หน้างาน
เหล็กเกรด SM520 จาก SYS ใช้ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถนำมาประยุกต์และผสานกับบริการต่าง ๆ ได้เหมือนกับการใช้งานเหล็กเกรด SS400 ทั้งหมด แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานจะได้รับหลังเปลี่ยนมาใช้เหล็กเกรด SM520 คือความแข็งแรงทนทานและการรับกำลังที่ทำได้มากกว่าเดิม ซึ่งส่งผลดีต่อโครงสร้างอาคารโดยตรง
เหล็กโครงสร้างกำลังสูง เกรด SM520 ใช้ก่อสร้างได้มากกว่าที่คิด
เหล็กโครงสร้างกำลังสูงเกรด SM520 เป็นวัสดุก่อสร้างที่นิยมนำมาเป็นโครงสร้างอาคารอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่อาคารที่อยู่อาศัยขนาดเล็กไปจนถึงอาคารในภาคอุตสาหกรรมอย่างโรงงานและโกดัง ตลอดจนอาคารสาธารณะที่เน้นทั้งพื้นที่ใช้สอยและงานดีไซน์ที่สวยงาม เท่านั้นยังไม่พอ ในปัจจุบันที่เมืองและ Infrastructure System มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เหล็กโครงสร้างได้ถูกหยิบมาใช้งานหลากหลายมากกว่าแค่เป็นโครงสร้างอาคาร เช่น เสาส่งสัญญาณ OCS โครงสร้าง หรือ Depot รถไฟ ด้วยความต้องการให้โครงสร้างอาคารหรือส่วนสนับสนุนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพในการรับแรงที่ดีมากขึ้น สามารถช่วยลดขนาดและน้ำหนักโครงสร้าง เพิ่มพื้นที่ใช้สอย และทำลายข้อจำกัดด้านงานดีไซน์ เหล็กที่ถูกหยิบมาใช้จึงถูกอัปเกรดเป็นเหล็ก SM520 ที่มีกำลังสูง รับแรงได้ดี และมีความยื่นหยุ่นมากขึ้น ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทและตอบโจทย์การก่อสร้างได้หลากหลายรูปแบบดังต่อไปนี้
กระบวนการผลิต
กระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์คุณภาพ
กระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพของเหล็ก SYS มีขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การนำวัตถุดิบรวมทั้งเศษเหล็ก ที่หมุนเวียนจากภายนอก มาผ่านเครื่องตรวจวัด กัมมันตรังภาพรังสี เพื่อให้มั่นใจว่าว่าวัตถุดิบที่เข้าสู่กระบวนการผลิตไม่มีสารกัมมันตรังสีเจือปน
มาตรฐานที่ SYS ได้รับการรับรอง
ผลิตภัณฑ์เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ
SYS ยึดถือคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ โดยคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมปลอดจากสารกัมมันตรังสี ตรวจสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด และควบคุมคุณภาพอย่างละเอียดทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้ SYS ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ มากมาย อาทิ TIS, JIS, BS, ASTM, EURONORM, AS/NZS, MS, SNI และ KSD เป็นต้น อีกทั้ง SYS ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบ การจัดการสิ่งแวดล้อมและการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอภัย จากหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานระดับสากล ได้แก่ ISO 9001, ISO 14001, TIS 18001, OSHAS 18001, CE Mark, และ ABS เป็นต้น ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทำให้เหล็ก SYS สามารถสนองความต้องการ การใช้งานของโครงสร้างได้ทุกประเภท รองรับการออกแบบสิ่งปลูกสร้างได้ทุกสภาพพื้นที่ ทำให้สิ่งปลูกสร้างดูล้ำสมัย หรูหรา บ่งบอกถึงความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์
คู่มือการใช้งานเหล็ก
ข้อแนะนำการใช้งานเหล็กอย่างปลอดภัย
คำเตือน
- โปรดระมัดระวังอันตรายจากสะเก็ดไฟ ความร้อน กระแสไฟฟ้า และละอองฝุ่นในขณะทำงานกับเหล็ก เช่น ตัด เจียร
เจาะรู เชื่อมเหล็ก หรือ การทำงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย - การกองเก็บสินค้า ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ต้องตรวจสอบความสามารถในการรับน้ำหนักและการสั่นสะเทือนของ
สถานที่กองเก็บ ให้สามารถกองเก็บได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง - หากกองสินค้าในบริเวณที่มีการสัญจร ต้องมีป้ายหรือแถบสีกั้น ให้เห็นเด่นชัด และปลอดภัยต่อผู้สัญจร
- การเคลื่อนย้าย และการยกติดตั้งในสถานที่ต่างๆ ต้องใช้อุปกรณ์ และวิธีการยกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
ข้อควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย
ข้อกำหนดสำหรับการใช้งาน เป็นเพียงข้อแนะนำในการใช้งานทั่วไปเท่านั้น การใช้งานที่นอกเหนือจากคู่มือการใช้งานนี้
ถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้ใช้งาน
ข้อมูลสินค้า SYS
สนใจสั่งซื้อสินค้า
สินค้าอื่นๆ ของ SYS
