เมื่อพูดถึงแบรนด์ Hario แน่นอนว่าสำหรับสาย Specialty Coffee ที่คลุกคลีอยู่ในวงการกาแฟต้องรู้จักแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟดริปคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นแบรนด์นี้กันอย่างคุ้นหูคุ้นตาอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบัน Hario Café ได้ขยายพื้นที่ของเหล่า Specialty Coffee มาแล้วถึง 3 สาขาทั่วโลก ได้แก่ สาขาแรกที่ประเทศญี่ปุ่น สาขาที่สองที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย และสาขาที่สามคือ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ที่ได้จับมือร่วมกันระหว่างแบรนด์ Hario กับ บริษัท Aroma Thailand ในการก่อตั้งสเปซดีๆ สำหรับคนที่หลงไหลในเมล็ดกาแฟไว้ที่ย่านโชคชัย 4 ด้วยดีไซน์การตกแต่งร้านที่ดูอบอุ่นไปด้วยสวนญี่ปุ่นสไตล์เซน และความเรียบง่ายสบายตาที่ทำให้สามารถนั่งชิลได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งทำให้ Hario Café Bangkok แห่งนี้ได้กลายเป็นทั้ง Specialty Coffee ของคนรักกาแฟ และเป็นจุดหมายใหม่ในการพักผ่อนของใครหลายๆ คนในคราวเดียวกัน
Hario Café Bangkok กับโครงเหล็ก H-Beam ดีไซน์สีขาวละมุน
ก่อนจะเป็น Hario Café เดิมพื้นที่แห่งนี้ได้มีโครงสร้างอาคารตั้งอยู่บนที่ดินผืนนี้อยู่แล้วก่อนที่ทาง Hario Café จะเข้ามารีโนเวทปรับปรุงพื้นที่นี้ขึ้นใหม่ ด้วยการผสมผสานไปกับโครงสร้างเดิมได้อย่างลงตัว ซึ่งส่วนที่ทางร้านได้ทำการปรับหลักๆ นั้นคือส่วนของโทนสีภายในร้านและโครงสร้างเหล็ก H-Beam ที่เข้ามาเสริมให้ดีไซน์ของร้านมีความกลมกล่อมมากขึ้น ซึ่งความกลมกล่อมที่กล่าวนี้ไม่ใช่เพียงแต่รูปลักษณ์ที่ดูสวยงามทันสมัยเท่านั้น แต่ยังคล้องจองไปกับดีไซน์ในส่วนของการตกแต่งภายในทั้งชั้นลอย, Slow Bar และความโปร่งโล่งที่เกิดขึ้นภายในตัวร้าน เพราะทางร้านต้องการให้ภายในร้านดูสว่าง มีความโปร่งสบายตามากขึ้นจึงได้เลือกใช้โครงสร้างเหล็กสีขาวนวล เพราะความเล็กเพรียวของโครงสร้างเหล็กสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในร้านให้ดูกว้างขวาง อีกทั้งสีขาวนวลที่ทางร้านเลือกใช้ยังช่วยให้ร้านดูสว่างขึ้น ทำให้ความเรียบง่ายตรงไปตรงมาของโครงสร้างเหล็ก กลายเป็นความเรียบง่ายที่ดูอบอุ่นไปในตัว
โครงสร้างเหล็ก H-Beam กับการสอดรับการออกแบบ Slow Bar
ด้วยรายละเอียดการออกแบบส่วนของ Slow Bar ขนาดใหญ่ที่ลูกค้าสามารถนั่งได้รอบ Bar และมีการตกแต่งด้วยโครงไม้ดัดโค้งเพื่อเพิ่มความรู้สึกที่ลื่นไหลให้กับงานดีไซน์ โดยโครงสร้างเหล็ก H-Beam ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้มีความโปร่งโล่ง ยังเข้ากับโครงไม้ดัดโค้งได้อย่างลงตัว เป็นโครงสร้างที่พึ่งพิงซึ่งกันและกันหรือเพื่อประคองในการรับน้ำหนักได้อีกด้วย
ชั้นลอยโครงสร้างเหล็ก H-Beam เพิ่มพื้นที่ชั้น 2 และการยกระดับมุมมอง
การใช้โครงสร้างเหล็ก H-Beam ในการทำโครงสร้างชั้นลอยไม่เพียงแต่ทำให้ตัวร้านมีพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้น แต่ยังช่วยยกระดับมุมมองของลูกค้าที่เข้ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในร้านด้วยกระจกใสสูงติดหลังคาที่ทำให้ส่วนของชั้นลอยสามารถมองออกมาเห็นทัศนียภาพของสวนญี่ปุ่นสไตล์เซน หรือแม้แต่การมองลงไปยังชั้นล่างเพื่อซึมซับกับกรรมวิธีในการทำกาแฟของทางร้านบริเวณ Slow Bar และเฝ้ามองการลื่นไหลของบรรยากาศที่แสนผ่อนคลายได้อย่างอภิรมย์
ความสวยเรียบง่าย ที่ไม่รู้เบื่อของโครงสร้างเหล็ก
เพราะโครงสร้างเหล็กมีรูปลักษณ์ที่ตรงไปตรงมาและสามารถนำมาใช้กับงานดีไซน์ได้ทุกยุคทุกสมัยและทุกสไตล์ ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ที่ไม่รู้เบื่อของโครงสร้างเหล็กทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในอาคารสามารถใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน อย่าง Hario Café แห่งนี้ อีกทั้งทางร้านยังมีพื้นที่นั่งชิลสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศ Out Door ด้วยโซนระแนงไม้ด้านนอกที่ใช้เสาเหล็ก H-Beam เช่นเดียวกับตัวอาคาร และให้ความรู้สึกที่กลมกล่อมไม่แพ้กัน