SIAM YAMATO STEELSIAM YAMATO STEELSIAM YAMATO STEEL

Premium Ice Factory สถาปัตยกรรมโรงน้ำแข็ง ที่กลั่นมาจากความคิดสร้างสรรค์

นอกจากการใช้งานที่ครบครันและเกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว รูปแบบของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ ยังส่งเสริมธุรกิจให้เกิดความชัดเจน รวมถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้โดดเด่น น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย เรากำลังพูดถึง Premium Ice Factory โรงงานน้ำแห่งสมัยใหม่ ที่ต่างออกไปจาการที่ใครๆรู้จัก

โรงงานแห่งนี้ออกแบบโดย วรัญญู มกราภิรมย์ และ สณทรรศ ศรีสังข์ จาก TA-CHA Design โดยในการออกแบบอาคารหลังนี้ไม่ได้มีฟังก์ชันที่สร้างมาเพื่อการผลิตน้ำแข็งเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น พื้นที่ใช้สอยขนาด 3,000 ตารางเมตร ของโรงงานผลิตน้ำแข็ง Premium Ice นี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ โรงงานผลิตน้ำแข็งบนชั้นที่ 1 สำนักงานของบริษัทบนชั้นที่ 2 และส่วนพักอาศัยบนชั้นที่ 3

สถาปนิกใส่แนวคิดเรื่อง Passive Design มาเป็นแนวคิดตั้งต้นของโครงการ คือการออกแบบลักษณะอาคารแบบปิดล้อม เพราะต้องการควบคุมตัวแปรหลายอย่างเพื่อความสะอาดปลอดภัยในการผลิตน้ำแข็ง แต่ยังคงเปิดช่องให้สามารถนำเอาพลังงานจากธรรมชาติเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ บวกกับการนำวัสดุเดิมที่เจ้าของอาคารมีอยู่กลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด

ที่ด้านหน้าของอาคาร ยังสร้างเอกลักษณ์ของอาคารได้อย่างน่าสนใจ เข้ากับธุรกิจผลิตน้ำแข็งที่สะอาดและได้มาตรฐาน ออกมาเป็นฟาสาดที่ได้แรงบันดาลใจจากเกล็ดหิมะนั่นเอง

ในการออกแบบผิวหุ้มหรือหน้าอาคารภายนอก (façade) และพื้นที่ภายในโรงงานผลิตน้ำแข็ง Premium Ice สณทรรศ บอกกับเราถึงแนวคิดตั้งต้นในการพัฒนารูปทรงของ ‘เกล็ดหิมะ’ กลับมานำเสนอในรูปแบบของการดีไซน์ผิวอาคารบางส่วนว่า “เกล็ดหิมะ จะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยมเสมอ เราจึงนำหกเหลี่ยมมาเล่นโดยพูดถึงการย้อนกลับของน้ำแข็ง จากของเหลวเป็นของแข็ง คิดกันเล่นๆ ว่าจะทำของแข็งให้เป็นของเหลวได้ไหม”

ถัดเข้ามาภายในส่วนของโรงงาน เนื่องจากอาคารชั้น 1 เป็นส่วนโรงงานผลิตของบริโภคซึ่งต้องมีลำดับของการผลิตและตำแหน่งการวางเครื่องจักรที่แน่นอน สถาปนิกจึงออกแบบโดยคำนึงถึงความสะอาดของพื้นที่ให้ได้ตามมาตารฐาน GMP (Good Manufacturing Practice Certification) และความปลอดภัยของพนักงานขณะปฏิบัติงานเป็นสำคัญ

ในการออกแบบส่วนใช้สอยของสำนักงานบนชั้น 2 สถาปนิกตั้งต้นจากคำถามที่ว่า “พื้นที่แบบไหนที่เราอยากจะนั่งทำงาน” จนกลายมาเป็นคำถามที่ท้าทายต่ออีกว่า “ออกแบบอย่างไรให้พนักงานเกิดฉันทะ” การแบ่งพื้นที่โดยเว้นคอร์ตกลางอาคาร และการดึงเอาพลังงานจากธรรมชาติเข้ามาสู่ภายในจึงกลายมาเป็นคำตอบของการออกแบบพื้นที่สำนักงานบนชั้น 2 ที่เชื่อมต่อกับส่วนพักอาศัยบนชั้น 3 ในสัดส่วนที่พอเหมาะพอเจาะ

สถาปนิกตั้งใจออกแบบพื้นที่ชั้น 2 ของอาคารให้เกิดการนำแสงธรรมชาติมาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งมีส่วนช่วยให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเลือกใช้แผ่นมุงหลังคาแบบโปร่งแสงเพื่อปลดปล่อยให้แสงธรรมชาติผ่านลงมาสู่พื้นที่ส่วนกลางและส่วนสำนักงานได้ทั่วถึง อีกทั้งยังปลูกไม้เลื้อยให้ทิ้งตัวลงมาจากชั้น 3 ให้เป็นดั่งม่านต้นไม้สีเขียวชอุ่มที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ใช้พื้นที่ นอกจากนี้ในการวางแปลนของอาคารและการเลือกใช้วัสดุหุ้มอาคารอย่างแผ่นเหล็กเจาะรู ยังมีช่องที่ช่วยให้ลมสามารถผ่านเข้ามาเป็นระยะ เพื่อสร้างภาวะน่าสบายเพิ่มมากขึ้นไปในตัว

ส่วนโครงสร้างนั้นเป็นโครงสร้างเหล็กเป็นหลัก เพราะมีความเหมาะสมในการใช้งาน ทั้งการสามารถทำช่วงเสาที่พาดกว้างได้มากโดยไม่มีเสาคั่นกลาง อีกทั้งยังดูเบาลอยสวยงามตามรูปแบบที่ต้องการอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า โรงงาน ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อหรือจริงจังเสมอไป อย่างโรงงานแห่งนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การออกแบบที่ดีและคิดถึงผลสุดท้ายอย่างรอบด้าน ทำให้การใช้งานนั้นสมบรณ์และยังเกิดภาวะที่น่าพึงพอใจมากกว่าการเป็นโรงงานที่เข้าถึงยากหลายเท่าตัว

ติดตามข้อมูลโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.hbeamconnect.com